RMF ซื้อได้เท่าไหร่ มาเช็กรายได้และจำนวนสูงสุดได้เลย

บทความนี้เราจะมาช่วยสร้างความกระจ่างให้กับนักลงทุนที่กำลังสงสัยว่า กองทุน RMF ซื้อได้เท่าไหร่ เพราะเราเข้าใจดีว่า เงื่อนไขของกองทุนที่สามารถนำยอดซื้อมาหักค่าลดหย่อนภาษีได้ จะต้องมีหลายคนที่คำนวณไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง และต้องการคำตอบแบบง่าย ๆ ว่า ถ้าต้องการลงทุนกับกองทุน RMF ระหว่าง 30% หรือ 500,000 บาท จะสามารถซื้อได้เท่าไหร่กันแน่ ใครกำลังร้อนใจกับประเด็นเหล่านี้อยู่ เราจะอธิบายหลักการเช็กรายได้ และจำนวนเงินว่าคุณสามารถซื้อกองทุนนี้ได้เท่าไหร่ ให้คุณได้เข้าใจและนำไปบอกต่อเพื่อน ๆ ได้

อยากรู้ว่ากองทุน RMF ซื้อได้เท่าไหร่ ต้องเข้าใจเงื่อนไขกองทุนก่อน

ก่อนที่เราจะได้คำตอบว่ากองทุน RMF ซื้อได้เท่าไหร่ ต้องมาเริ่มทำความเข้าใจเงื่อนไขของกองทุนก่อนว่ามีหลักการอย่างไร มีข้อกำหนดแบบไหน เพราะเมื่อคุณเข้าใจถึงเงื่อนไขหลักของกองทุน คุณจะสามารถคำนวณค่าลดหย่อนภาษี และยอดซื้อที่คุณจะสามารถซื้อกองทุนได้ด้วยตัวเองอย่างแม่นยำ

มาเริ่มทำความเข้าใจกับที่มาของยอด 30% กับ 500,000 บาท ที่หลายคนมักจะเข้าใจสับสน หรือใช้สลับกันก่อน กองทุน RMF นักลงทุนสามารถนำยอดซื้อไป “หักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ต่อปี” แต่ถ้าหากคุณมีการออมเงินและกองทุนเพื่อการเกษียณอายุประเภทอื่นร่วมด้วย คุณจะต้องนำยอดซื้อของกองทุนทั้งหมดมารวมกัน โดยที่ “ยอดรวมจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท” และนี่คือที่มาของยอด 30% กับ 500,000 บาท ยังมีคนนึกภาพไม่ออกใช่ไหม เราไปดูตัวอย่างกัน

ยกตัวอย่าง ให้คุณมีเงินเดือนประจำเดือนละ 70,000 บาท การคำนวณหาเงินได้ต่อปีคือ 70,000 บาท x 12 เดือน = 840,000 บาท/ปี หากเรามองตามเงื่อนไขที่ว่า คุณสามารถนำยอดซื้อไปหักลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ต่อปี จะเท่ากับ 840,000 x 30% = 252,000 บาท นี่คือยอดเต็มสิทธิที่จะตอบคำถามได้ว่า กองทุน RMF ซื้อได้เท่าไหร่ อีกทั้งยังเป็นยอดที่ใช้หักลดหย่อนภาษีด้วย

แต่ถ้าหากว่าคุณมีการซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญไว้ก่อนแล้ว 200,000 บาท อีกทั้งยังซื้อกองทุนรวม SSF อีก 100,000 บาท การคำนวณจะเข้าสู่เงื่อนไขที่ 2 ของกองทุนนั่นคือ จะต้องรวมยอดซื้อทั้งหมดและต้องไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้นการคำนวณจะเริ่มต้นด้วยการนำประกันชีวิตแบบบำนาญ มารวมกับกองทุนรวม SSF ก่อน นั่นคือ 200,000 + 100,000 = 300,000 บาท

จากนั้นจึงนำยอดรวมนี้ไปหักออกจากยอดกำหนดสูงสุดคือ 500,000 – 300,000 = 200,000 บาท ซึ่งยอด 200,000 บาทที่เหลือนี้ คือยอดที่คุณจะสามารถซื้อกองทุน RMF ได้อย่างไม่ผิดเงื่อนไข

จึงสรุปได้ว่า ทุกคนสามารถซื้อกองทุน RMF ได้ 30% ของเงินได้ทั้งปีอย่างเต็มสิทธิ แต่ถ้าหากมีการออมเงินและกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย คุณจะต้องนำยอดซื้อทั้งหมดไปหักจาก 500,000 บาทก่อน ยอดคงเหลือจึงจะเป็นยอดที่สามารถซื้อกองทุน RMF ได้ 

เช็กเลย กองทุนรวมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ที่รวมกับกองทุน RMF ซื้อได้เท่าไหร่

มาถึงตรงนี้มีใครสงสัยบ้างว่า กองทุนรวมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ที่ซื้อรวมกับกองทุน RMF ซื้อได้เท่าไหร่ และมีกองทุนอะไรบ้างที่เข้าเงื่อนไขนี้ มาเช็กพอร์ตกันเลย

• กองทุนรวม RMF ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ต่อปี สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
• กองทุนรวม SSF ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ต่อปี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
• กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ซื้อได้ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
• กองทุนการออมแห่งชาติ ซื้อได้ไม่เกิน 30,000 บาท
• ประกันชีวิตแบบบำนาญ ซื้อได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ต่อปี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท

นอกจากนี้ข้อพึงระวังสำหรับนักลงทุนที่ซื้อกองทุน RMF คือ นักลงทุนไม่ควรซื้อเกินสิทธิสำหรับการลดหย่อนภาษีสูงสุด เพราะเมื่อถึงเวลาขายหน่วยลงทุนแล้วเกิดเป็นกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) กำไรที่เกิดขึ้นนี้จะกลายเป็นเงินได้ประเภท 8 ซึ่งจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี ทำให้ต้องนำไปยื่นภาษีรวมกับรายได้อื่นด้วย

ได้ทราบคำตอบกันไปแล้วว่า กองทุน RMF ซื้อได้เท่าไหร่ รวมไปถึงวิธีการคำนวณยอดซื้อด้วยตัวเอง และข้อควรระวังในการซื้อกองทุน RMF หลังจากนี้ไปคุณจะสามารถวางแผนประหยัดภาษีรายปี วางแผนการซื้อกองทุนรายปี และสามารถวางแผนการเงินหลังเกษียณได้ ที่สำคัญอย่าทำผิดเงื่อนไขระหว่างการลงทุน เพื่อประโยชน์สูงสุดในการลงทุนที่คุณจะได้รับ