พอตไฟฟ้ามีกี่แบบ เลือกแบบไหนดี
แน่นอนว่าพอตไฟฟ้ามีอยู่ด้วยกันหลายแบบและแต่ละแบบมีหลักการทำงานแตกต่างกันไป ดังนั้นหากคุณกำลังสนใจแต่ไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนดีหรือเลือกยังไงให้ตอบโจทย์ความต้องการ เรามีคำแนะนำเบื้องต้นมาฝาก
พอตไฟฟ้ามีกี่แบบ
สำหรับพอตไฟฟ้าที่มีการจัดจำหน่ายในท้องตลาดหลัก ๆ มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ
1. พอตแบบเติมน้ำยา
วิธีการใช้งาน คือ ต้องคอยเติมน้ำยาทุกครั้งที่น้ำยาใกล้หมด ข้อดี คือ ฟิลการสูบค่อนข้างหลากหลายและปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะ
2. พอตแบบไม่ต้องเติมน้ำยา
วิธีการใช้งานตรงตามรูปแบบ คือ ไม่ต้องเสียเวลาเติมน้ำยาเวลาน้ำยาหมด แค่ถอดหัวพอตเก่าทิ้งและเปลี่ยนหัวพอตใหม่เข้ามาแทน ข้อเสีย คือไม่สามารถปรับฟิลการสูบได้ แต่มีข้อดี คือสูบแล้วแน่น ให้ความรู้สึกเหมือนบุหรี่จริง
ส่วนคำถามที่ว่าควรเลือกแบบเติมน้ำยาหรือไม่เติมน้ำยาดี
หลักในการพิจารณาง่าย ๆ แค่ดูจากความต้องการของตัวเองและข้อดี – ข้อเสียว่าตรงกันหรือไม่ เช่น อยากได้ฟิลการสูบแบบไม่จำเจแค่เลือกพอตแบบเติมน้ำยา อยากได้ฟิลการสูบแบบแน่น ๆ เลือกพอตแบบไม่ต้องเติมน้ำยา เป็นต้น
แนวทางการเลือกพอตบุหรี่ไฟฟ้าให้เหมาะกับตัวเอง
นอกเหนือจากการเลือกพอตไฟฟ้า รูปแบบของพอตไฟฟ้าแล้ว ยังมีแนวทางในการเลือกแบบอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่
- เลือกจากฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก หากคุณต้องการพอตบุหรี่ไฟฟ้า โดยเน้นฟังก์ชันการใช้งานขอแนะนำดูตั้งแต่ความยากง่ายในการใช้อุปกรณ์ การชาร์จแบตเตอรี่ ระบบการแจ้งเตือนการใช้งาน ระบบการแจ้งเตือนแบตเตอรี่ไปจนถึงราคา
- เลือกจากส่วนประกอบของของน้ำยา สำหรับส่วนประกอบหลักของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเกือบทุกแบรนด์ในคล้ายคลึงกันมีทั้งหมด 4 ส่วนประกอบ ได้แก่ กลีเซอรีน นิโคตินโค โพรพิลีนไกลคอล และสารแต่งกลิ่นหรือรสชาติ นอกจากนั้นการมีส่วนประกอบแตกต่างกันไปมีผลต่อกลิ่น รสสัมผัส และความเข้มข้น ดังนั้นหากอยากรู้ว่าน้ำยาบุหรี่ประเภทที่คุณกำลังจะซื้อให้ฟิลประมาณไหนหรือความเข้มข้นระดับใดอย่าลืมดูส่วนประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย
- เลือกจากดีไซน์และการออกแบบ สิ่งที่คุณต้องทำเป็นอันดับแรก คือ ให้ดูไลฟ์สไตล์ค่อนข้างโลดโผนควรเลือกพอตที่ทำจากวัสดุที่มีความคงทนแข็งแรง เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ หรืออลูมิเนียม หรือไลฟ์สไตล์ของคุณ คือ เน้นการเดินทางบ่อยควรเลือกพอตที่มีรูปร่างหรือรูปทรงที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก เป็นต้น
สรุปได้ว่าพอตไฟฟ้ามีด้วยกัน 2 รูปแบบหลัก คือ แบบเติมน้ำยาและไม่เติมน้ำยา โดยทั้ง 2 รูปแบบมีข้อดี – ข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นหากคุณไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนขอให้เริ่มจากการถามความต้องการตัวเอง เช่น เน้นความสะดวกสบายเลือกใช้แบบไม่เติมน้ำยา อยากได้ความหลากหลายรสชาติกลิ่นไม่ซ้ำซากจำเจเลือกใช้แบบเติมน้ำยา เป็นต้น หรือหากคิดว่ายังไม่ตอบโจทย์ก็อย่าลืมมองหาปัจจัยอื่น ๆ ที่คาดว่าน่าจะตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุดก่อนเลือกซื้อ